7 อาหารกระตุ้นอาการปวดหัว ที่คุณอาจคาดไม่ถึง

เวลาที่มีอาการปวดหัว หลายคนมักโทษงานหนัก นอนน้อย หรือความเครียด แต่รู้ไหมคะว่าอาหารบางชนิด ก็สามารถเป็นตัวการกระตุ้นอาการปวดหัวได้เช่นกัน โดยเฉพาะผู้ที่เป็นไมเกรนหรือมีความไวต่อสารบางอย่างในอาหาร การรู้ว่าอาหารแบบไหนควรหลีกเลี่ยง จะช่วยป้องกันอาการปวดหัวได้มากกว่าที่คิดค่ะ

1. ช็อกโกแลต
ในช็อกโกแลตมีทั้งคาเฟอีนและสารฟีนิลเอทิลามีน ซึ่งอาจทำให้หลอดเลือดในสมองขยายตัวจนกระตุ้นอาการปวดหัวได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยไมเกรนควรทานอย่างพอเหมาะค่ะ

2. ชีสบางชนิด
ชีสที่ผ่านการบ่ม เช่น เชดด้าร์ บลูชีส หรือพาร์เมซาน มีสารไทรามีน (Tyramine) สูง ซึ่งเกี่ยวข้องกับ อาการปวดหัว ในหลายคน หากกินแล้วปวดหัวเป็นประจำ อาจลองลดปริมาณดูได้นะคะ

3. คาเฟอีน
คาเฟอีนช่วยให้สดชื่นก็จริงค่ะ แต่ถ้าทานมากเกินไป หรือหยุดดื่มกะทันหัน อาจทำให้ปวดหัวได้เช่นกัน โดยเฉพาะคนที่ดื่มกาแฟวันละหลายแก้ว ควรค่อย ๆ ลดปริมาณแทนการหยุดทันที

4. อาหารแปรรูป
ไส้กรอก แฮม เบคอน และเนื้อแปรรูปหลายชนิดมีสารไนไตรท์–ไนเตรท ซึ่งอาจกระตุ้นหลอดเลือดทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ การเลือกทานอาหารสดแทน จะช่วยลดความเสี่ยงส่วนนี้ได้ค่ะ

5. อาหารรสเค็มจัด
โซเดียมสูงทำให้ร่างกายกักน้ำและเพิ่มความดัน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับอาการปวดหัวในบางคน หากชอบอาหารเค็ม ควรลดความเค็มลงทีละน้อยค่ะ

6. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์ โดยเฉพาะไวน์แดง มีสารไทรามีนและฮิสตามีน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นไมเกรนได้ดีทีเดียว นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังทำให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของอาการปวดหัวค่ะ

7. ผงชูรส (MSG)
อาหารที่มีผงชูรสสูงอาจทำให้บางคนรู้สึกปวดหัว มึน หรือแน่นบริเวณศีรษะ แม้ไม่ใช่ทุกคนจะไวต่อสารนี้ แต่ถ้าสังเกตว่ามักปวดหัวหลังทานอาหารประเภทนี้ ควรลดลงค่ะ

สรุป

อาหารในชีวิตประจำวันอาจเป็นตัวกระตุ้นอาการปวดหัวได้มากกว่าที่คิด การสังเกตว่าตัวเองไวต่ออาหารชนิดใดเป็นพิเศษ จะช่วยป้องกันอาการปวดหัวกำเริบได้อย่างดี หากอาการปวดเกิดบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ หรือรุนแรงจนรบกวนชีวิตประจำวัน การปรึกษาแพทย์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดนะคะ

H8 Clinic มีแพทย์เฉพาะทางด้านระบบประสาท พร้อมให้คำแนะนำอย่างละเอียด ตรวจหาสาเหตุของอาการปวดหัว และวางแผนการรักษาแบบเฉพาะบุคคล รวมถึงแนวทางใหม่ ๆ เช่น ยาฉีดป้องกันไมเกรน ที่ช่วยลดอาการได้อย่างปลอดภัยค่ะ